คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม.
2. อุปาทานวิปปยุตตธรรม อาศัยอุปาทานวิปปยุตต-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานวิปปยุตต-
ธรรม.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุต.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ตลอดถึงอสัญญสัตว์.
3. อุปาทานวิปปยุตตธรรม อาศัยอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม และอุปาทานวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคต-
วิปปยุต และโลภะ.

3. นอธิปติปัจจัย ฯลฯ 6. อุปนิสสยปัจจัย

7. นปุเรชาตปัจจัย

[431] 1. อุปาทานสัมปยุตตธรรม อาศัยอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
2. อุปาทานวิปปยุตตธรรม อาศัยอุปาทานสัมปยุตต-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ โลภะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น
ทิฏฐิคตวิปปยุต.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานสัมปยุตตธรรม.
3. อุปาทานสัมปยุตตธรรม และอุปาทานวิปปยุตต-
ธรรม อาศัยอุปาทานสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 และโลภะ อาศัยขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วย
โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุต ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
4. อุปาทานวิปปยุตตธรรม อาศัยอุปาทานวิปปยุตต-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอุปาทานวิปปยุตต-
ธรรม ฯลฯ ขันธ์ ฯลฯ
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอุปาทานวิปปยุตตธรรม.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุต.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ตลอดถึงอสัญญสัตว์.